ขุนแผนละลวยลม เป็นขุนแผนพรายกุมารเมืองล้านนา ที่มีประสบการณ์ และ ผู้แสวงมากที่สุด ณ เวลานี้
อาจารย์ท่านนำผงพราย และ น้ำมันอาถรรพ์จากผู้หญิงชื่อ แม่คำหม่อน แม่นาจ๋อ แม่น้ำฝน แม่วรรณา แม่กา หลง แม่เหมยๆลๆ จำนวนเจ็ดคนเพื่อมาทำขุนแผนรุ่น ละลวยลมขุนแผนรุ่นนี้ กำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกศิษย์ลูกหาและพ่อค้าประชาชนทั่วไป ใน พื้นที่แม้แต่ผู้หญิงยังแขวน และ หวงแหนเป็นอย่างมากครับ จากคำบอกเล่าถึง ปาฏิหาริย์ประสบการณ์ต่างๆ ส่วนมากจะเป็นพ่อค้า ประชาชนที่นำไปใช้แล้ว เกิดได้ผลจริงตามที่ขอ เพราะมวลสารต่างๆวิธีการสร้าง อาจารย์เบส จะสร้าง ตามตำราโบราณที่ได้เรียนจากอาจารย์ของท่านทุกอย่าง
อาจารย์ท่านรู้วัน ตายตัวเอง ห้ามฟ้าห้ามฝน เสกหนุมานกระโดดออกบาตร เสกวัวธนูสานเดินต่อ หน้าลูกศิษย์ ศิษย์ที่เห็นกับตาตอนนี้ก็ยังอยู่หลายท่าน ขุนแผนผงพรายเป็นของ ดีอีกอย่างที่ท่นได้เมตตาสร้างแจกลูกศิษย์ให้นำไปบูชาจนเกิดผล
วิธีเลี้ยง : ลาบดิบ และ เหล้าขาว อาทิตย์ละครั้ง หรือ เดือนละครั้ง
................................................
ประวัติโดยสังเขป....อาจารย์วรพล (อาจารย์เบส) เมืองฝาง จ.เชียงใหม่
อาจารย์วรพล หรือ อาจารย์เบท ที่เรียกขานกันในหมู่ลูกศิษย์ลูกหา มักจะคุ้นหูได้ยินกิตติศัพท์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ในด้านพุทธาคมมาตั้งแต่เยาว์วัย
หากย้อนเวลาไป5-6ปีก่อน ท่านอาจารย์วรพล หรืออาจารย์เบท คืออาจารย์เณรแห่งอำเภอฝาง ผู้ฝักไฝ่อยู่กับไสยเวทคาถาตั้งแต่เด็กๆ
เพราะได้อยู่ใกล้ชิดกับเรื่องราวไสยเวทตั้ังแต่เด็กๆ โดยมีพ่อหนานจันทร์ เทพวงศ์ ผู้เป็นปู่แท้ๆ เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้เป็นท่านแรก
ซึ่งถ้าหากพูดถึงชื่อ พ่อหนานจันทร์ แล้ว ถ้าถามคนใน ต.ท่ากว้างและแถวระแวกใกล้เคียงในอ.สารภีไม่มีใครไม่รู้จักท่าน
อีกทั้งท่านยังเป็นสหธรรมที่ไปมาหาสู่กับหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโกแห่งวัดวังมุยอันโด่งดังผู้สร้างชื่อให้กองพลเสือดำในสมัยนั้นตลอดถึง
ครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆเช่น พ่อหนานสูนทร ชัยเดช(เสือเย็น) ,พ่อตั๋น ดวงแก้ว(ปู่ตั๋นน้ำมันพรายเมีย67คน) , พ่อตั๋น สุขสบาย, พ่อส่างวัณณะ
,เจ้าส่างยานะ , พ่อส่างแดง , พ่อจั๋น อินไชย, อ.อึ่ง ,พ่อปัน จิโน ,พ่อทร, พ่อหนานโถ ,พ่อหนานสุวรรณ มณีศรีแสง,
อ.เปี๊ยก ศิษย์เอกหลวงปู่คง สุวัณโณ แห่งวัดวังสรรพรส
อีกทั้งตัวอาจารย์ได้สืบทอดสรรพวิชาของพ่อหนานคำหน้อย วงศ์คำ ผู้เป็นอาจารย์ของท่านอาจารย์วิเศษ
หรืออดีตสามเณรวิเศษ สิงห์คำ แห่งวัดสันป่าสัก กับพ่อหนานเมืองกับพ่อหนานทอง และเป็นผู้สืบทอดดูแลขันครูของอาจารย์วิเศษ
ซึ่งแรกๆท่านฝากไว้กับพ่อหลวงต๋อยซึ่งเมื่อเมื่อก่อนจะมาไหว้ครูที่นั้น ท่านอาจารย์วรพล หรือ อาจารย์เบท
เป็นที่ยอมรับของอาจารย์ทวี คำปินและพ่อหลวงต๋อย2ศิษย์เอกที่ได้ติดตามอาจารย์เณรวิเศษตั้งแต่สมัยเป็นเณรครั้งที่ท่านยังไม่มีใครรู้จัก
ซึ่งอาจารย์วิเศษได้บอกกับลูกศิษย์ใกล้ชิดไว้ว่า “ ถ้าเราไม่อยู่ใครมีอะไรให้อ.ทวีกะพ่อหลวงต๋อยไปด้วยกันแทนตัวท่านได้ ”
และเป็นที่ยอมรับจากอาจารย์อินต่วนหมอผีเสน่ห์ชื่อดังของเชียงใหม่ศิษย์พี่ของท่านซึ่งเป็นศิษย์พ่อหนานวรรณเช่นกัน
อีกของยังได้สืบทอดจากพ่อบุญมี สมปานทะนึก หรือพ่อสี แห่งป่าช้าสันกู่เหล็ก เชียงใหม่ที่อาจารย์วิเศษท่านยอมรับ และเปรยกับศิษย์เสมอว่า
คนเฒ่านี้เก่งเน้อ
ในสายพุทธาคมแห่งดินแดนที่ราบสูงภาคอีสานท่านอาจารย์วรพล หรืออาจารย์เบท ก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาพุทธาคมจาก
หลวงปู่จันทร์หอม สุภาธโร แห่งวัดบุ้งขี้เหล็ก , อ.ทองสุข ก้อนบุญ ต้นตำหรับเสือสมิง(เสือหัวขาด) ,พ่อคำ ลาช่อง
ส่วนในสายพุทธาคมทางภาคกลาง ก็ได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อนพวรรณ คุณาสาโร แห่งวัดเสนานิมิตรอยุธยา
ท่านอาจารย์เบสเคารพยิ่งพ่ออาจารย์ที่เมตมาต่ออาจารย์เบสเสมอเวลาใครถามท่านจะตอบว่า "ไอ้นี่มันลูกกู"
หรือแม้แต่หลวงปู่หมุน หลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) หลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว ขนาดหลวงปู่หมุนยังบอกว่า "เณรนี่เทวดามาเกิด"
พิธีพุทธาภิเษกที่วัดสุทัศน์หลวงปู่หมุนบอกให้รอเณรเบสถึงเริ่มพิธีได้ และอีกหลายๆท่านที่อาจารย์เบสได้ขนขวายไปศึกษาร่ำเรียนจากทั่วสารทิศ
ด้วยความใฝ่รู้ตั้งแต่เป็นสามเณร จนสึกมาหลายปีก็ยังไม่ได้หยุดการตามหาศึกษาความรู้ และประสพการณ์ใหม่ๆทั้งในและประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง
หากเมื่อย้อนไป6-7ปีก่อนแล้วในเมืองเชียงใหม่และใกล้เคียงถือว่าท่านมีชื่อเสียงพอควรและเคยมีศิษยานุศิษย์ในการขออนุญาติจัดสร้างเหรียญมาแล้วถึง 3รุ่น
ในขณะที่ตอนนั้นท่านเป็นเณร และหมดไปด้วยเพราะประสพการณ์ทางด้านคงกระพันชาตรี จากทหาร ตชดในครั้งนั้น
เพราะส่วนมากลูกศิษย์ของท่านจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นและทหารและบรรดาวัยรุ่น ซึ่งในตอนนั้นมีแก๊งค์วัยรุ่นต่างๆ
ที่เกิดประสพการในเรื่องคงกระพัน
หลังจากท่านอาจารย์วรพล ได้ลาสิกขาแล้วยังได้แสวงหาความรู้เรื่อยๆและท่านได้เก็บตัวเงียบมาตลอด
ซึ่งก็จะมีบรรดาศิษย์ท่านที่เข้าไปเยี่ยมหาท่านอาจารย์ โดยจะรู้ๆกันในเฉพาะวงใน จนล่าสุดประสพการณ์จากเหรียญรุ่น3สมัยเป็นเณร
ซึ่งสร้างถวายโดยท่านสส.สันติ ตันสุหัสเกิดประสพการณ์อีกครั้ง โดยอภปร.บ้านหนองป่าครั่ง แม่คาว เชียงใหม่โดนรุมแทง7รุม1ไม่เข้าโดย
อภปร.คนนี้แขวนเหรียญติดตัวโดยได้มาจาก พ่อหลวงต๋อย "ศิษย์เอกอาจารย์วิเศษ" จนทำให้เรื่องราวของท่านกลับมาเริ่มโด่งดังในแผ่นดินลานนาอีกครั้ง
ซึ่งในครั้งนี้ท่านโดนการรบเร้าจากศิษยานุศิษย์ให้ท่านเปิดตัวหลังจากท่านขออยู่เงียบๆเก็บตัวทบทวนและศึกษาสรรพวิชา
ที่ได้ร่ำเรียนมาหลายปีโดยท่านให้เหตุผลว่า " เรายังเด็กอายเขา " ท่านห้ามฟ้าห้ามฝนได้ ใช้ผีใช้พลายได้ เสกวัวธนูเดินต่อหน้าศิษย์
เสกหนุมานกระโดดออกบาตร ใครสักยันต์กับท่านท่านจะฟันด้วยมีดคมคม
วัตถุมงคลทุกรุ่นก่อนแจกท่านจะลองยิงให้แน่ใจว่าลูกศิษย์ที่ได้รับไปนำไปใช้แล้วจะเกิดผล ช่วงสุดท้ายในชีวิตท่าน ท่านทราบวันที่ท่านจะมรณะล่วงหน้า
ท่านได้สั่งเสียพ่อแม่ลูกศิษย์ไว้ก่อนแล้วเป็นเวลาหนึ่งเดือน วัตถุมงคลของท่านช่วงแรกเป็นที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่มแต่มาถึงตอนนี้
ถึงเวลาแล้วที่เกียรติคุณของท่านจะได้รับการกล่าวขานถึงตราบฟ้าดินสลาย