จัดสำรับ พวงมาลัย อาหารคาวหวาน ผลไม้ น้ำดื่ม น้ำหวาน ถวาย นำไปพกติดตัว ไว้ต่ำกว่าพระ ใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋าถือ หรือบูชาไว้ใส่พานไว้ในบ้าน หน้าร้านค้า จุดธูป ๑ ดอก หมั่นภาวนาทุกเช้าค่ำให้ขึ้นใจด้วยคาถา
ห้ามใช้ในทางที่ผิดศิลธรรม อยากเห็นผลไวควรปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรม
ประวัติครูบาพิรุณ สิริจันโท วัดชัยมงคล จ.เชียงใหม่
ครูบาพิรุณ บวชตั้งแต่เป็นสามเณรในปี พ.ศ.2519 และได้เรียนนักธรรมจนสอบนักธรรมชั้นตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอกได้ตามลำดับ
เมื่อคราวที่วัดจัดงานปริวาสกรรม จึงได้พบกับอาจารย์วิรัตน์ จัตตมโล เริ่มสนใจพระกรรมฐาน นั่งสมาธิจนลืมฉันข้าว ฉันน้ำ
และก็ได้ออกเดินธุดงค์กับอาจารย์วิรัตน์ อยู่หลายปี ตอนที่ยังเป็นสามเณร
และก็ได้พบกับพระอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับสามเณรพิรุณ
ก็คือ หลวงปู่กลั่น อินทธัมโม (ฉายา ตาเรดาร์ ตาทิพย์) แห่งวัดทุ่งศรีน้อย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด สามเณรพิรุณตั้งใจเรียนวิชาทุกอย่างที่หลวงปู่สอนให้จนเป็นที่พอใจของหลวงปู่
แล้วก็เดินธุดงค์กับหลวงปู่มาที่เขาวงพระจันทร์ จ.ลพบุรี และก็เดินธุดงค์ไปทั่วตามที่หลวงปู่พาไป สามเณรพิรุณคิดถึงพ่อแม่เลยขอเดินทางกับมาที่เชียงราย
แต่การกลับมาคราวนี้ทำให้พ่อแม่แปลกใจ เนื่องจากไม่กลับไปอยู่วัดแต่กลับไปอยู่ที่ป่าช้า สาเหตุก็คือตอนไปธุดงค์ที่ลำปาง ไปเรียนรู้กับหลวงปู่เกษม เขมโก
และท่านก็ได้แนะนำให้สามเณรไปฝึกจิตอยู่ในที่เงียบสงบ และไม่มีที่ไหนที่เงียบและเหมาะกับการฝึกจิตได้เท่ากับป่าช้าอีกแล้ว
ครั้นสามเณรพิรุณได้กลับมาที่เชียงรายและได้ปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่เกษมแนะนำ
และในช่วงที่กำลังอยู่ที่ป่าช้านั้น ก็ได้มีพระรูปหนึ่งมาชวนให้ไปหาหลวงปู่แหวน
พอไปพบท่านแล้ว ท่านก็บอกว่า “ให้บวชนานๆ เด้อ” สามเณรพิรุณรับปาก พออายุครบบวชจึงได้อุปสมบทโดยมี พระครูสีลนันทคุณ วัดสีลาอาสน์ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูสีลาจารโสภิต (คำบาง อชิโต) วัดธัมมิกาวาส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการดวงแก้ว ฐิติวณฺโณ วัดสันติวัน เป็นพระอนุสาวนาจารย์
และได้เดินธุดงค์ไปประเทศพม่า ศึกษาวิชาต่างๆ ที่ตัวเองชอบ และกลับมาวัดชัยมงคล จ.เชียงใหม่ จนเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2533 จนถึงปัจจุบัน